วันนี้วันกลับ กทม. แต่แผนเที่ยวยังแน่นเอี๊ยด

อ่านตอนแรก Porto Chino - วัดห้วยมงคล - อาหารทะเลเขาตะเกียบ - Cicada Market - ตลาดโต้รุ่ง - Zeaza Bungalow

โปรแกรมวันที่สองของหัวหิน แบบชิลๆ วันนี้
06.00 ดูพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล และเล่นน้ำชิลๆ ริมหาดยามเช้า
08.00 ทานอาหารเช้าของที่พัก
09.00 เก็บของ ออกไป ไหว้พระวัดเขาตะเกียบ ซื้ออาหารทะเลกลับ กทม. ที่เขาตะเกียบ
10.30 แวะชิมเค้ก จิบกาแฟ แถวหัวหิน เล็งๆ ร้าน อยู่เย็น (เพิ่งรู้ว่าย้ายไปแล้ว) / บ้านถั่วเย็น / บ้านใกล้วัง
12.00 เดินเล่นเพลินวาน ทานข้าวเที่ยง
14.00 แวะ Premium Outlet ชะอำ แวะของฝากแม่กิมลั้ง กิมไล้ กิมเล้ง (เลือกเอา ไม่มีเจ้าประจำ)
17.00 ทานข้าวเย็น ครัวครูหมู แม่กลอง
18.00 อิ่มแปล้ ตรงดิ่งกลับ กทม. บ้านเฮา

ตั้งแต่เช้าตรู่ก็รีบตื่นมา ★ ริมหาดเขาตะเกียบ ลุกสายไปหน่อย 6.30 น.
คาดว่าจะเห็นความงามของพระอาทิตย์ขึ้น ปรากฏว่า ขึ้นไปเรียบร้อยแล้วจ้า ร้อนฉ่าเลยทีเดียว
ถ้าใครอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นหน้าร้อนจริงๆ แนะนำให้ตื่นสักตี 5 มารอนะ

แต่ไหนๆ ก็มาหาดแล้ว ขอเดินเล่นชิลๆ หน่อย โบกครีมกันแดดแล้ว เดินเล่น รับลมทะเล
แช่น้ำทะเลให้ร่างกายได้ทะเลตามที่ตั้งใจนิดนึง
ริมหาดเขาตะเกียบยามเช้า คนไม่เยอะเลย เห็นวิวเขาตะเกียบ และเขาเต่าไกลๆ บรรยากาศดีมาก
ยามเช้าแบบนี้ ก็มีคนมาเล่นน้ำบ้างประปราย เล่นบานาน่าโบ้ท แต่เช้าเชียว
มีบริการเช่าห่วงยาง ขี่ม้าริมหาด แต่คนไม่เยอะนัก มีพระเดินบิณฑบาตรด้วย แอบถ่ายเค้ามา





ได้เวลาอาหารเช้า มีข้าวต้มหมู จัดไว้ให้ จาก Zeaza Bungalow เรามีสามคน ได้คนละถ้วย
เคยอ่านรีวิวมาว่า บริการไม่ดี มีอาหารเช้าไม่ครบ แต่เราได้ครบทุกคนนะ (ตอนจองโทรถามเค้าแล้ว อิอิ)
พูดถึงที่พัก ที่นี่ ★ ข้อดีคือ มี WiFi Free มีน้ำให้ 2 ขวด เตียงใหญ่ นอนสบาย ห้องน้ำโอเค
ถึงแม้จะไม่ติดทะเล แต่ใกล้หาดสุดๆ ในราคานี้ มาทะเลก็ต้องพักใกล้ทะเลสิเนอะ
★ ข้อเสียคือ แอบเก่านิดหน่อย แต่ไม่ได้แย่มาก, อาหารเช้าไม่อร่อย ข้าวต้มแอบจืด แต่เราก็ไม่ได้เน้นอาหารเช้ามาก เดี๋ยวก็ออกไปกินเค้กแถวในหัวหินอยู่ดี, ที่จอดรถ อยู่ด้านนอกรั้ว ไม่มียามเฝ้า แต่แสดงว่าที่นี่เค้าต้องมั่นใจในความปลอดภัย ว่าไม่มีการลักขโมยแน่นอน
พี่คนเฝ้าใจดีมาก เราลืมตุ๊กตาหมาไว้ในบ้าน ตอนกำลังจะขึ้นรถแล้ว พี่ยังวิ่งตามมาให้เลย ขอบคุณค่าา

เก็บของออกจากที่พัก ไป "วัดเขาตะเกียบ" ต่อ ซึ่งใกล้มาก
เช้านี้แดดแรงมากกกก เปรี้ยงสุดๆ ผ่านแหล่งขายของทะเลเขาตะเกียบ คนบางตากว่าเมื่อวานเย็นมาก
ขึ้นไปบนเขาตะเกียบ ทางขึ้นชันเล็กน้อย แต่ไม่น่ากลัวมาก ที่จอดรถสะดวกสบายดี คนน้อยมาก


จำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยมาเขาตะเกียบ มีลิงเยอะมากกก ทุกที่ แอบน่ากลัว เพราะลิงจะกวนเรา
แต่ตอนนี้เค้ามีจัดที่ให้อาหารลิงไว้ด้านล่าง ไม่มีลิงเกะกะบริเวณไหว้พระเลย
ทางขึ้นไหว้พระเป็นบันไดทอดยาวขึ้นไปด้านบน สูงมาก
ต้องอาศัยความแข็งแรงจากร่างกายนิดนึง โชคดีที่ยังเช้าอยู่ ยังไหว


สำหรับผู้หญิงที่สวมขาสั้น กระโปรงสั้น มีผ้าให้นุ่งเพื่อความสุภาพ เราก็ได้ใช้บริการด้วย
กว่าจะขึ้นมาถึง เล่นเอาหอบเหมือนกัน แดดร้อนมาก (ย้ำรอบที่สิบ)
แต่ด้านบนวิวสวยย เล่นเอาหายเหนื่อย เห็นทิวทัศน์ของหาดโดยรอบ


กลับลงมา ซื้ออาหารทะเลเขาตะเกียบอีกรอบ คราวนี้ลองเปลี่ยนร้าน
จอดรถริมทางสบายๆ ตอนเช้าไม่ค่อยมีคน เหมือนตอนเย็น เดินเปรียบเทียบราคา เลือกร้านได้เลย
นอกจากอาหารสด ยังมีของแห้ง ให้ซื้อกลับไปฝากได้ด้้วย ได้ปลาเส้น และปลาหมึกมา
ส่วนของสดได้ปูม้านึ่ง 1 กิโล กลับบ้าน 380 บาท ส่งตรงถึง กทม.


ออกจากเขาตะเกียบ ขับรถไม่ไกล เข้าซอยหัวหิน 55 ไปถนนแนเบเคหาสถ์
ซอยนี้จะมีร้านกาแฟ ร้านเค้กน่านังชิลๆ หลายร้าน สามารถ search ข้อมูลดูได้
แต่เราเลือกจะไป อยู่เย็น บัลคานี่ ซึ่งย้ายไปแล้ว (เพิ่งรู้ตอนไปถึงหน้าร้านเลย)
เลยเปลี่ยนใจไป "บ้านใกล้วัง" แทน
เพราะอยู่ไม่ไกล ในระยะเดินไปได้ และเป็นร้านที่ติดทะเลเหมือนกัน


ปกติร้านเค้กแถวนี้วันหยุดยาว จะไม่มีทีนั่งเลย ที่บ้านเราเคยมากัน แต่ไม่ได้กินสักร้าน เพราะเต็มหมด
คราวนี้เรามาหลังหยุดยาวไปแล้ว เลยสบายๆ หน่อย ได้นั่งโต๊ะเกือบริมทะเลเลย
(โต๊ะริมทะเลนั่งไม่ไหว แดดแรงมากวันนี้)
เราสั่ง กาแฟ เอสเพลสโซ่เย็น ลาเต้เย็น และชานมเย็น ส่วนเค้กเป็น เค้กมะพร้าว เค้กส้ม
แถมด้วยเซทแซนวิช (อาหารเช้าพนักงานบอกว่าเลยเวลาสั่งแล้ว ตอนนั้น 10.45 น.เอง)


จัดเต็มกันมาก เพราะว่าหิว จากข้าวต้มอันน้อยนิดของที่พัก 5555
สำหรับคอกาแฟสด จะบอกว่าที่บ้านใกล้วัง กาแฟค่อนข้างเข้ม ไม่ได้ชงแบบกาแฟสดทั่วไป
จะเป็นกาแฟเข้มข้นให้เติมน้ำเชื่อมเอาเอง หายง่วงกันเลยพวกเรา



นั่งชิลๆ ค่อยๆ จิบกาแฟ ชมวิวทะเล ถ้าใครอยากลงไปเดินเล่นริมหาดก็ได้ ที่ร้านมีทางเดินลงบันไดไป
เป็นหาดส่วนตัว เดินเล่น ถ่ายรูปได้ตามสบาย แต่แดดยามเที่ยงนี้ ไม่มีใครไปย่างกรายแถวนั้นได้เลย
หรือถ้าจะนั่งโซนด้านใน ไม่รับไอแดด ก็มีเช่นกันนะ
ค่าเสียหายทั้งหมด 600 กว่าบาท เค้กที่นี่จะประมาณ 110 บาท กาแฟประมาณ 80 บาท


ออกจากบ้านใกล้วัง ไปหลบร้อนกันที่ "เพลินวาน"
สารภาพว่าขับเลย ไปกลับรถมาใหม่ พอดีเป็นวันที่ในหลวง และสมเด็จพระราชินี เสด็จกลับวังไกลกังวน
เลยมัวแต่มองทหาร ตำรวจ และประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ เลยไม่ได้มองเพลินวานไปเลย
กลับรถมาใหม่ เข้าที่จอดรถ มีคนโบกเยอะมาก ไม่รู้ว่าที่จอดของเพลินวานจริงๆ คืออันไหน
รู้ว่าเสียตังแน่ๆ ขับเข้าไป โดนเก็บ 40 บาททันที ก็โอเค เพราะไม่รู้ว่าจะต้องจอดตรงไหน
ตั้งแต่ที่ Cicada Market และตลาดโต้รุ่ง คือสถานที่ท่องเที่ยวย่านนี้ต้องทำใจเลยว่า เสียค่าจอดแน่ๆ



ด้านในเพลินวาน มีลักษณะเป็น 2 ชั้น มีบรรยากาศยุคสมัยเก่า ตั้งแต่การตกแต่ง ถึงของที่ขาย
ของกินจะเป็นลักษณะกินเล่น มีขายอาหารไม่มากนัก และมีของเล่น ของที่ระลึกหลายร้าน
ร้านที่เราประทับใจคือร้านขายของเล่น มีขายขนมเก่าๆ หลายแบบ มีน้ำอัดลม RC ด้วยนะ


ต่อมาคือร้านขายขนมถังแตก ที่เคยออกรายการทีวีหลายช่อง ได้มาชิมแล้ว อร่อยจริงไรจริง
ชิ้นละ 20 บาท 3 ชิ้น 50 ไส้เยอะ กรอบ ดีงาม


และร้านขายเสื้อยืด มีหลายร้านมาก แต่เราแนะนำร้านนี้ ถูกและดี อยู่ชั้นล่าง


ก่อนออกจากเพลินวาน เราหาทานก๋วยเตี๋ยวรองท้อง เพราะจะยิงยาว ไปถึงแม่กลอง ค่อยทานข้าวเย็น
เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือด้านบนสุด ตกแต่งน่าอร่อย เลยขึ้นไปลอง
ปรากฏว่า ไม่ได้อร่อยอย่างที่คิด (ความเห็นส่วนตัว) และค่อนข้างแพง ชามละ 50 บาททีเดียว
และเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือร้านเดียวในเพลินวาน (เท่าที่เห็น) คนเลยและมาทานค่อนข้างเยอะ



สรุปว่าเพลินวานเป็นสถานที่น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง มีของขาย มุมสวยๆ ที่ถ่ายรูปเยอะ
แต่กลายเป็นว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทุนนิยมไปนิดนึง ตั้งแต่ที่จอดรถ และของ (บางร้าน) แอบแพง
ไม่เหมือนตลาดน้ำทั่วๆ ไป ที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ราคาไม่แพง และมีของดีประจำชุมชนด้วย




ออกจากเพลินวาน ที่ต่อไปที่จะแวะคือ Premium Outlet ชะอำ
ก็เหมือน Outlet หลายๆ ที่ แต่ใหญ่มาก ของเยอะดี อันนี้เลือกของกันจนเพลิน ไม่ได้ถ่ายรูปมาจ้า
มีร้านนึงขาย อิตาเลี่ยนโซดาด้วย เลยแวะไปลองชิมแก้ร้อน ตอนแรกคิดว่าจะเฉยๆ แอบแพง
แต่ชิมแล้ว อร่อยดีมาก มีเจลลี่ให้ด้วย แนะนำเลย อันนี้ ลิ้นจี่โซดา



ส่วนร้านของฝาก เนื่องจากมีหลายแม่ มาก กิ้มเล้ง กิ้มลั้ง กิมไล้ มีตลอดทาง ถ้าลืมแวะไม่ต้องกังวล
เราเลือกแวะร้านที่จอดรถสะดวก ใกล้ Outlet คือ "แม่กิมลั้ง" สีชมพู ดูทันสมัยดี
ที่จอดรถสะดวก มีร้านข้าวแกง ร้านกาแฟ ห้องน้ำสะอาด
ได้หม้อแกงมา 2 กล่อง 100 บาท ขนมชั้น ส่วนน้ำตาลสด แวะซื้อข้างทางจ้า

ถึงเวลากลับ กทม. แล้ว ขับยาวๆ รถติดบ้างบางช่วง คิดว่าคงไม่ติดเท่าหยุดยาว
ไม่นานก็มาถึงแม่กลองตามกำหนดเวลา 5 โมงกว่าๆ
แวะ "ครัวครูหมู" ที่ออกรายการตลาดสดสนามเป้า
ซอยโรงเรียนดรุนาณุกูล แม่กลอง มีที่จอดรถข้างทาง แต่ป้ายน้อยไปนิด เกือบเข้าผิดเหมือนกัน

คนไม่เยอะมากนัก พนักงานต้อนรับเป็นเด็กนักเรียน ที่ครูจ้างมา
เด็กๆ แอบเล่นกันเยอะไปหน่อย ไม่ค่อยสนใจต้อนรับเท่าไร พาเราไปนั่งโต๊ะตากแดด
พอขอย้ายก็ไม่รู้จะบอกใคร เพราะเด็กๆ มัวเล่นกันอยู่ - - ในที่สุดก็ได้ย้าย

อาหารมาเร็วดี ส่วนมากจะเป็นจานใหญ่ ถ้าสั่งปลา กุ้ง ต้องเหมากิโล เหมาะกับคนมาเป็นหมู่คณะ
และไม่มีราคาตายตัวติดไว้ในเมนู เราสั่งปลากระพง แกงส้ม โลละ 300 บาท
กับ หอยหลอดผัดฉ่า และ ไข่เจียวกุ้งสับ ทั้งหมดประมาณ 680 บาท




สำหรับเรา รสชาติกลางๆ ผัดฉ่าไม่เข้มข้น ออกแนวเผ็ด
แกงส้มเผ็ดมาก ออกแนวแกงส้มปักษ์ใต้ ไม่เหมือนแกงส้มที่เคยกิน
สั่งเด็กว่า ขอพริกน้ำปลา น้องกลับมาบอกว่า กุ้งแช่น้ำปลาหมด พี่เงิบ ดีนะที่หมด เกือบได้กินกุ้งแช่น้ำปลาเพิ่ม (ฮา) แต่สุดท้ายก็ได้นะ ต้องบอกน้องอีกคน ขอไปสองรอบทีเดียว
สักพักนึงได้ยินพนักงานผู้ใหญ่ ถามโต๊ะข้างๆ ว่า มีพริกน้ำปลา น้ำจิ้มรึยัง (แล้วทีนู๋ขอบ้าง กว่าจะได้)

สงสัยลูกค้าอาจจะเยอะไปหน่อย ดูแลไม่ทั่วถึง เห็นว่าร้านออกทีวี เลยอยากมาลองชิม
แต่ร้านสะอาดดี บรรยากาศดี ริมแม่น้ำแม่กลอง รสชาติกลางๆ อาจไม่ค้นลิ้น
ใครอยากลองมาชิม ก็ได้อยู่ อาจจะชอบ
เย็นแล้ว ถือโอกาสชมพระอาทิตย์ตกแม่น้ำ ที่ครัวครูหมู แล้วเดินทางกลับ กทม. ถิ่นเราซะเลย




อ่านตอนแรก  Porto Chino - วัดห้วยมงคล - อาหารทะเลเขาตะเกียบ - Cicada Market - ตลาดโต้รุ่ง - Zeaza Bungalow คลิก