จากคราวที่แล้วเราปั่นจากต้นซุงไปเที่ยวบึงมาแล้ว

คราวนี้เราลองปั่นจากลาดพร้าว ไปยังสุดทางพระราม 9 ดูบ้าง

เส้นทางเริ่มต้นลำบากเล็กน้อย เพราะเราปั่นตอนเย็นแทน เป็นเวลาที่ผู้คนสัญจรเยอะ

อุปสรรคแรกคือการข้ามถนน เพราะรถเรามีน้ำหนักพอสมควร ถ้าหิ้วข้ามสะพานลอยอาจจะหมดพลังก่อนปั่นได้

เราจึงเลือกทางม้าลาย แต่ด้วยความที่รถเยอะ จึงต้องอาศัยความรวดเร็ว และการตัดสินใจอย่างเร็ว

สุดท้ายก็ข้ามมาได้ (เฮ้อ!) ด้วยการรอจังหวะไฟ และจูงข้าม จักรยานข้ามถนนใจต้องกล้าจริงๆ นะเออ

หลังจากนั้นเส้นทางก็ค่อนข้างฉลุย จะมีผ่านซอยที่รถออกบ้าง และคนเดินฟุตบาท กับมอเตอร์ไซค์ (ตามเคย)

ทางเลียบด่วนฝั่งมุ่งหน้าพระราม 9 ยามเย็นมีคนออกกำลังเยอะเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นวิ่ง

สำหรับจักรยาน ทางขรุขระบางช่วง อารมณ์ว่ามาแข่งแรลลี่ทางวิบากจักรยาน

และมีสะพานให้ได้ประลองกำลังขาพอประมาณ แต่ทางที่เรียบหรูดูดีร่มรื่น สวยงาม ก็มีบางช่วง

สุดเลียบด่วนคือสุดทางพิเศษสำหรับจักรยาน

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่จักรยานหลายๆ คันเลือกที่จะวิ่งบนผิวถนนร่วมกับรถใหญ่

เพราะเส้นทางที่ท่านพิจิตรเตรียมไว้ให้เมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันกลายเป็นทางอเนกประสงค์

ทั้งมอเตอร์ไซค์ พื้นที่ตั้งร้านค้า ขุดรื้อลอก พื้นขรุขระ หลุมบ่อ รวมไปถึงทางบางช่วงที่หาย (ไปไหนฟะ)

แต่พวกเราเลือกปลอดภัยไว้ก่อน จากข่าวอุบัติเหตุจักรยานหลายๆ ข่าวในช่วงหลัง 

และเราไม่ใช่นักปั่นตัวยงขนาดนั้น จึงแรลลี่อยู่บนทางจักรยานต่อไป

ขากลับแวะชมวัดพระราม 9 แต่ไม่ได้เข้าไปด้านใน เหมือนว่ามีพิธีสวดอะไรอยู่

จึงวนลอดมาทางบึงพระราม 9 เพื่อกลับมาปั่นอีกฝั่งแทน ซี่งไม่ได้ต่างกันมากนัก

อุปสรรคต่อมาคือ ฟ้าเริ่มมืด เราสายตาไม่ค่อยดี ไฟที่มีก็มีปัญหาเล็กน้อย จึงเปลี่ยนไฟกันท่ามกลางความมืด

เที่ยวแวะจนเพลิน ทำให้เลยเวลาที่ตั้งเอาไว้ ไหนจะต้องข้ามถนนกลับอีก

การปั่นจักรยานกลางคืนไม่ใช่เรื่องสนุกนักสำหรับเรา สุดท้ายก็ตกหลุมไป 1 ดอก จนเจ็บข้อมือ

และตัดหน้ารถ ที่ออกจากร้านข้างทาง (คาดว่ารถไม่สังเกตุพวกเรา แอบน่าโมโหเหมือนกัน เพราะรถเร่งเครื่องมาแรงแบบไม่คิดจะผ่อน)

แต่ก็มีหลายๆ คนที่ชอบปั่นกลางคืน ระหว่างทางก็เจอเพื่อนนักปั่นหลายคนเลย 

ขากลับ พวกเราลงถนนบ้าง เพราะฟุตบาทคนเยอะ ไม่สะดวกหลบหลุม (มืดแล้ว)

เป็นประสบการณ์ไม่กี่ครั้งที่ปั่นบนผิวถนน ความจริงสำหรับเรา ไม่ดีเลย อุบัติเหตุเกิดง่ายมาก

แม้เราจะปั่นเหยียบเส้นขาวไป รถก็หลบเราลำบาก มีบางครั้งรถเมล์ปาดเข้าหน้า รู้สึกใกล้มาก

ถ้าเราเสียหลักนิดเดียว หรือรถแฉลบเพียงไม่กี่เซ็น ก็อาจกลายเป็นอุบัติเหตุที่เราไม่อาจคาดคิดได้ง่ายๆ

รถพับจังหวะปั่นก็ไม่กว้างเท่ารถใหญ่ อีกอย่างก็ไม่มีกำลังพอเท่ารถยนต์บนถนน

เราเชื่อว่าคนขับนถยนต์ไม่น้อยที่ไม่ชอบจักรยาน แม้ว่าจะเป็นคนปั่นจักรยาน แต่ถึงเวลานั้น คุณก็อาจรำคาญจักรยานก็เป็นได้

อย่าคิดว่าถนนใช้ร่วมกัน แล้วต้องมีน้ำใจต่อกัน สมัยนี้ใครๆ ก็คิดว่า ถนนนี้ภาษีข้า จะทำยังไงก็ได้ นักปั่นควรระวังมากๆ

สุดท้ายก็ข้ามถนนกลับโดยรอจังหวะไฟ และปั่นข้ามเลย ตื่นเต้นดี กลับถึงโดยสวัสดิภาพ

สำหรับหลายคน การปั่นกลางคืน ปั่นบนถนน ปั่นข้ามถนน เป็นเรื่องธรรมดา เคยทำปกติ

แต่คนที่ไม่เคยไป ต้องใช้ความระวังอย่างสูง ยังไงก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ