ได้ไปแล้วนะ เจแปง ตอนที่ 4 : ปราสาทวันฝนพรำ ช้อปปิ้ง?
19 มี.ค. 57
ความเดิมตอนที่แล้ว จาก Takayama Associa
วันนี้เราจะเดินทางไปปราสาทยามเช้า และไปช้อปปิ้งต่อตอนบ่าย
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเหมือนเดิม ที่โรงแรมนี้เค้าว่าร้านขายของมีขายนมวัวฮิดะ ที่อร่อยมาก แต่เราไม่สันทัดเรื่องนม จึงขอบายดีกว่า (กาแฟโรงแรม ยังไม่เจอโรงแรมไหนของญี่ปุ่นอร่อยเลยนะ)
ออกจากโรงแรม 8 โมงตามเวลา มีเลทกันบ้าง ตามสไตล์ไทยๆ
วันนี้เราจะเดินทาง 87 Km ประมาณ 2 ช.ม. (คำนวนจาก Google Map) ไปยัง
ปราสาทมัตสึโมโต (松本城 Matsumoto-jō)
เราไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับปราสาทนี้มาก รู้แค่ว่าสวย และมีน้ำล้อมรอบ
ก่อนจะถึง ก็รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง พอมาถึง ฝนก็ดันพรำๆ ลงมาซะงั้น
คนรถมีร่มให้พวกเรายืม แต่ร่มสมบูรณ์บ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง ก็พอทำเนาไป
ฝนที่ญี่ปุ่นเหมือนว่าจะไม่ทำให้เราเป็นหวัด (คิดเอาเอง) เพราะอากาศเค้าสะอาดมากๆ
มาถึงปราสาท ก็ตะลึงในความสวยงาม คงอารมณ์เหมือนฝรั่งทึ่งในวัดไทยมั้ง
อดเก็บภาพไม่ได้ ทั้งๆ ที่ฝนยังตก ก็ยังถ่ายชัตเตอร์รัวๆ
เข้าไปถึงด้านใน ไกด์ได้จัดการซื้อตั๋วให้พวกเราแล้ว
สำหรับร่ม และรองเท้าจะมีถุงพลาสติกให้ใส่ หิ้วขึ้นไปด้วย
และเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ (ที่เดินลำบากมาก)
แต่เราไปเท้าเปล่า (มีถุงเท้า) ก็สะดวกดีนะ รองเท้าเค้าไซส์ไม่พอดีเท่าไร
บันไดที่นี่ชันมาก เหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของปราสาทเลย (ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ควรพิจารณา)
ไกด์บรรยายให้ฟังถึงวิถีชีวิตในปราสาท ที่จะมีซามูไร และผู้หญิง (จำชื่อเรียกไม่ได้) อยู่รวมกัน
แถมบางชั้นยังเป็นชั้นหลอก ให้ศัตรูภายนอกไม่สามารถรู้ว่ามีกี่ชั้น
ด้วยการไม่มีหน้าต่าง เป็นเหมือนชั้นลอย
ด้านบนสุดของปราสาท มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นเคารพอยู่ (จำไม่ได้ว่าคืออะไร)
วิวหน้าต่างจากด้านบนสุด จะเห็นรอบทิศทาง คงเอาไว้คอยดูศัตรูที่จะเข้ามา
คูน้ำรอบๆ ปราสาททำหน้าที่เพิ่มความลำบากให้ศัตรูที่จะเข้ามาถึงตัวปราสาท
แต่ตอนนี้กลายเป็นจุดถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทจากระยะไกลซะมากกว่า
หลังจากชมปราสาทกันจนปวดข้อ (เพราะขึ้นๆ ลงๆ บันไดชันๆ หลายชั้น)
ก็เตรียมขึ้นรถต่อ ไปทานอาหารกลางวันกัน
อาหารกลางวันวันนี้มาแวะกินที่ร้าน คล้ายๆ Food Court
เหมือนว่าจะเป็นเมืองที่เป็นทางผ่านไปยัง Outlet ที่เราจะไป
(จำชื่อเมืองไม่ได้ แต่เป็นเมืองที่ดังเรื่องแอปเปิ้ล)
วันนี้เป็นอาหารชุด ประกอบด้วยอาหารหลายๆ อย่างมาก
ขนาดเพื่อนร่วมทริปหลายคนยังบ่นว่า กินแล้วเหนื่อย ของกินเยอะเกินไป
ไม่รู้จะกินอะไรก่อนหลัง แต่ชาบู อร่อยมากๆ
ไฮไลท์คือ โถข้าวที่เป็นหม้อดิน สามารถนำกลับบ้านได้
พวกเราก็บ้าจี้เอากลับด้วยนะ เห็นของฟรีไม่ได้หรอกคนไทย แบกกลับมาถึงไทยเลยทีเดียว
หม้อนี้แหละ นำกลับบ้านไปถ่วงแม่นาคได้เลยจ้า |
อันนี้ของโปรดเรา อยากกินอีก |
![]() |
บรรยากาศในร้าน |
ถ้าคำนวนเส้นทางจากปราสาทเมื่อครู่ ไปยัง Gotemba Outlet
ทั้งหมด 193 Km เดินทาง 2 ช.ม.กว่าๆ แต่เรามีแวะทานข้าวระหว่างทางด้วย
ทำให้รู้สึกไม่ไกลมากนัก ฝนยังคงตกตลอดทาง
เมื่อถึง Outlet ไกด์นัดแนะ และบอกร้านสำคัญๆ พร้อมแจกแผนที่ร้านค้า
ซึ่ง Outlet นี้ใหญ่มาก และเราก็ไม่ใช่นักช้อปปิ้งสินค้า Brand อะไรมากมายนัก
เราจึงเดินดูเฉพาะที่ชอบ ประกอบกับการเดินแต่ละร้านเหนื่อยมาก
ต่อสู้กับกระแสลมแรง ฝนพรำ อากาศหนาวเย็น แต่พอเข้าไปในร้านก็จะอุ่นจนร้อนมาก
(เพราะมีฮีทเตอร์) เลยไม่ได้เก็บภาพอะไรมากมายนัก
หลบฝน และมัวแต่หาของฝาก (ของคนอื่น) ซะมากกว่า
ได้เวลานัด ก็กลับขึ้นรถ กลับโรงแรม (ซะที เฮ่อ) ขับรถประมาณ 50 นาที ระยะทาง 40 Km.
วันนี้เราจะไปนอนพักที่โรงแรมย่านภูเขาไฟฟูจิ จึงได้เห็นวิวฟูจิระหว่างกลับโรงแรมด้วย
(ถึงแม้จะมีเมฆหมอกมากมายก็เถอะ)
ฟูจิซัง ครั้งแรกที่เจอเธอ |
โรงแรม Jiragonno Fuji No Yakata ขึ้นชื่อว่าคนไทยเยอะจริง (อันนี้คอนเฟิร์ม)
โรงแรมค่อนข้างเก่า แต่มีทีเด็ดที่บุฟเฟต์ขาปูยักษ์ ใส่ชุดยูกาตะมารับประทานปูยักษ์
ฟินสุดๆ เลย แกะปูกันสนุกสนาน เค้ามีวิธีแกะ แต่เราก็ทำไม่ได้ซะที แกะมั่วๆ ซั่วๆ ไป
(อาศัยกินของเพื่อนที่แกะเก่งแทน อิอิ) ไกด์แจกน้ำจิ้มซีฟู้ด (พกมาจากไทย)
เลยฟินไปมาก อาหารทุกอย่างก็บุฟเฟต์ แต่จะกินได้สักเท่าไรกันเชียว
![]() |
ขาปูมาเป็นจานๆ สั่งเพิ่มได้ตลอด |
![]() |
เหล้าบ๊วย อภินันทนาการจากไกด์ |
อย่างที่บอกไปว่าโรงแรมค่อนข้างเก่า ห้องเล็ก และห้องน้ำไม่มีอ่าง
เป็นแบบชาวเวอร์ โอนลี่ ห้องส้วมกับห้องน้ำแยกกัน อ่างล้างหน้าอยู่ข้างนอก
(อารมณ์อยู่หอบี หอเอเชี่ยนเกมส์แฮะ)
โรงแรมนี้ไม่มี Wi-Fi ในห้องพัก แถมหน้า Lobby ก็มีคนแย่งกันใช้เยอะมากกกกก
Pocket พวกเราก็สัญญาณต่ำมากเช่นกัน เนื่องจากอยู่ในหุบเขา แต่ก็พอจะแชทได้ไรได้อยู่
และที่นี่มีออนเซนเช่นกัน ได้ข่าวว่าวิวดีมาก แต่เราก็นอนขดอยู่ห้องจ้า
พรุ่งนี้เข้าเมืองแล้ว :)
CONVERSATION